ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส เราอาจสัมผัสได้ถึงความเงียบสงัดยามราตรีแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกมุมหนึ่งกลับส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนจำนวนมากอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายคนตกงาน หลายคนไร้บ้าน หลายคนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว หน้าร้อนของไทยอย่างเดือนเมษายน ช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่หลายครอบครัวรอคอย เดือนที่เรียกได้ว่าร้อนระอุที่สุด กลับพบกับความรู้สึกเย็นยะเยือกที่ค่อยๆแทรกซึมผ่านจิตใจของผู้คนอย่างน่าวิตก เราได้แต่หวังว่าเมื่อผ่านพ้นฤดูร้อนไป อะไร ๆ คงจะดีขึ้นมาบ้าง
วิกฤตไวรัสโควิด-19 กับการเข้าสู่ฤดูร้อนอันเย็นยะเยือก
ยิ่งนาน ยิ่งเจ็บ! ปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงของการกักกันตัว
“เราไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น หากเราไม่เคยอยู่จุดเดียวกับเขา และไม่เจอกับตัวเอง” เพราะแต่ละคนเจอกับปัญหาที่ต่างกัน หนักเบาไม่เท่ากัน บางคนวิตกเพราะกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด-19 บางคนเครียดจากการตกงาน การหยุดกิจการชั่วคราว หรือธุรกิจที่อาจต้องปิดตัวลงในอนาคต ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ บางคนทำงานในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ บางคนรู้สึกเหงาอ้างว้าง เพราะอยู่ตัวคนเดียว หรือบางคนแค่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการอยู่บ้านเป็นเวลานาน
เมื่อความตึงเครียดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น แต่ละคนมีวิธีจัดการรับมือกับปัญหา อารมณ์ความรู้สึกภายในจิตใจแตกต่างกันไป บางคนระบายความทุกข์ ผ่านการบอกเล่าให้ใครสักคนได้รับฟัง บางคนอาจกำลังแบกรับความรู้สึกหนักอึ้งเอาไว้ เราไม่รู้ว่าภายใต้เปลือกที่แข็งแกร่งจะมีอะไรซ่อนอยู่ข้างในบ้าง คำว่า “ไม่เป็นไร” หมายความอย่างที่พูดไว้ จริงหรือไม่? บางคนรู้สึกหดหู่ สิ้นหวังเกินบรรยาย โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบางที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ส่วนในผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิต (Mental Health) อยู่แล้วอาจมีอาการกำเริบหรือแย่ลงได้ ยิ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้อนานเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความเสียหายต่อจิตใจมากขึ้นเช่นกัน
ยิ่งใกล้ ยิ่งเจ็บ! ภัยเงียบที่ซุกซ่อนอยู่ภายในครอบครัว
ช่วงของการกักตัว บางทีนี่อาจเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัวมากขึ้น ว่าแต่…คุณคิดอย่างนี้หรือไม่? คำตอบอาจจะมีทั้งใช่ ไม่ใช่ หรือไม่แน่ใจ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น “เมื่อบ้านอาจไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” สำหรับบางคนแล้วนี่เป็นช่วงเวลานาทีทองที่ได้ทบทวนตัวเอง ได้ใช้เวลาร่วมกับคนในบ้านมากขึ้น แต่สำหรับบางคน อาจกำลังตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ร้ายแรง เป็นไปได้หรือไม่ว่า นี่อาจเป็นการตอกย้ำปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ ปัญหาที่ “คนนอกไม่กล้ายุ่ง คนในไม่กล้าเอ่ย” เราไม่ได้โทษไวรัสโควิด-19 หรือมาตรการที่ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อบรรเทาและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่เรากำลังชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งของสังคมไทย ไม่ใช่แค่ปัญหาที่ซุกอยู่ใต้เตียงเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนอีกด้วย หากครอบครัวไหนที่มีการใช้ความรุนแรงอยู่ก่อนหน้าแล้ว พอเจอกับภาวะความตึงเครียดเข้าไป อาจส่งผลให้ความรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ยิ่งคิด ยิ่งเจ็บ! เมื่อสัญชาตญาณดิบของมนุษย์กำลังโผล่ออกจากที่ซ่อน
ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ทุกคนล้วนมีความเครียดและความกังวลใจ ไม่มีใครอยากป่วย ไม่มีใครอยากขาดรายได้ ไม่มีใครอยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เมื่อจมอยู่กับความวิตกกังวล หลายคนเริ่มสร้างภาพความคิด ผสานกับข้อมูลที่รับรู้มา จนติดกับดักความกลัว ยากที่จะสลัดออก หาก “ความกลัวแปรผันตามความไม่รู้” แล้วเรารู้อะไรบ้าง เรากำลังเสพข้อมูลอะไรกันอยู่ ข่าวจริงหรือข่าวปลอม (Fake News) ข่าวลือมักจะแพร่สะพัดไปได้ไกล รวดเร็ว และได้รับความเชื่อถือพอ ๆ กับข้อเท็จจริง ยิ่งเราเสพข่าวมากแค่ไหน ความตื่นตระหนก ความหวาดระแวงก็มากขึ้นเท่านั้น ความโกลาหลจึงตามมาติดๆ
- ผู้คนเริ่มแห่กันกักตุนสินค้า อาหารแห้งถูกกวาดเกลี้ยงชั้นวาง ไม่มีเหลือสำหรับผู้มาทีหลัง
- บุคลากรทางการแพทย์ ไม่มีหน้ากากอนามัยใช้
- คนบางกลุ่มฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จนคนบางกลุ่มเอื้อมไม่ถึง
- ผู้สูงอายุ ผู้พิการทางสายตา ถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลัง
- เรารุมประณามบุคคล ที่แสดงความคิดเห็นตรงข้ามกับเรา
- เราไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงทางสังคม โดยยึดเหตุผลส่วนตัว
เหตุการณ์ที่เราและสังคมกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เราแค่เห็นปัญหาชัดเจนขึ้นเท่านั้น หากความกลัวช่วยให้เราปกป้องตนเองจากภาวะคุกคาม นี่คือสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด หรือแค่ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์กันแน่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอนุภาคขนาดเล็กของไวรัสโคโรน่า 2019 จะมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงเกินกว่าที่คาดคิด ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างมหาศาล ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราทุกคนล้วนได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น กระทบต่อคนทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม หรือแม้แต่คนที่ไม่ยี่หระต่อการแพร่ระบาดครั้งนี้ก็ตาม สิ่งที่เราควรทำเพื่อตัวเองและสังคม คือ การปกป้องและดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน นี่อาจไม่ใช่วิกฤตสุดท้าย ที่ท้าทายมนุษยชาติ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ

[…] ในขณะที่วิกฤติยังไม่จบ เราเริ่มจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆอย่างเกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ ในมุมของอาชีพและการหาเลี้ยงชีพก็เช่นกันที่ในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดการแทนที่ทั้งแรงงานคนและอาชีพเดิม ๆด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าซึ่งเรียกกันว่า “โลกออนไลน์” ดังนั้นในอนาคตหากงานของคุณเกี่ยวพันกับเทคโนโลยีหรือเรื่องออนไลน์ต่าง ๆตามกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่างานประจำเดิมที่จะค่อย ๆถูกกลืนหายไปในที่สุดครับ […]
[…] และแล้วการระบาดระลอก 3 ซึ่งเป็นการระบาดระลอกที่เรียกได้ว่ามีความรุนแรงมากที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยก็มาถึง โดยต้นเหตุของการระบาดในรอบนี้เกิดขึ้นมาจากสายพันธุ์ไวรัสโคโรนาที่มีการกลายพันธุ์ไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยเชื้อที่ระบาดนี้เป็นสายพันธุ์จากอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์เดิม เมื่อไวรัสกลายพันธุ์จนก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้น เราจะมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร บทความนี้มีคำแนะนำมาฝากครับ […]