เคล็ดลับกินอย่างไรให้สวย แข็งแรงสมวัย ดูดีได้ตั้งแต่วัยสาวไปจนถึงวัยสูงอายุ

0
713
เคล็ดลับกินอย่างไรให้สวย แข็งแรงสมวัยในแต่ละช่วงอายุ

อ่อนกว่าวัย VS แก่กว่าวัย อยากเห็นตัวเองเป็นแบบไหน คุณเลือกได้! ไม่ว่าภายนอกผู้หญิงเราจะสตรองแค่ไหน ภายในล้วนมีความสวยงามซ่อนอยู่ ความงามทางกายภาพไม่ได้หมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความแข็งแรงของร่างกาย รูปร่างสมส่วน และสุขภาพดีเช่นกัน  แต่หากคุณละเลยที่จะดูแลตัวเอง แน่นอนว่านั้นจะทำให้อายุร่างกายล้ำหน้าอายุจริง!  หนึ่งในเคล็ดลับความงามจากภายในคือ การเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มาดูกันว่ามีอาหารประเภทใดบ้างที่จะทำให้คุณดูดีได้ในทุกช่วงวัย

เคล็ดลับกินอย่างไรให้สวย แข็งแรงสมวัยในแต่ละช่วงอายุ

สาววัย 20+ : เปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานและความสดใส

คงไม่มีช่วงอายุใดที่ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณเรียบเนียนเปล่งปลั่งเท่ากับหญิงสาวในวัยนี้ วัยที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันเหลือล้น สาวๆ ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใส่ใจกับสุขภาพมากนัก จริงๆ แล้วนี่เป็นช่วงเวลาดีๆ ในการเริ่มต้นดูแลตัวเอง เพราะต้นทุนสุขภาพยังดีอยู่ ความเสื่อมของระบบการทำงานภายในร่างกายยังไม่มาเยือน

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • เน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกเพื่อเตรียมไว้ใช้ในอนาคต เพราะร่างกายจะสร้างมวลกระดูกไปเรื่อยๆ จนความหนาแน่นสูงสุดในช่วงอายุ 30
  • อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น มะเขือเทศ ฝรั่ง กีวี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
  • อาหารที่มีวิตามินบี 12 เสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงสมองและการทำงานของระบบประสาท

หญิงสาววัย 30+ : Working Woman ช่วงชีวิตแห่งการรับผิดชอบ

วัยที่ความสวยงามบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ มีความมุ่งมั่นทุ่มเทกับการทำงานเพื่อสร้างอนาคต สามารถจัดระเบียบชีวิตได้ดีขึ้น หลายคนแต่งงานมีครอบครัว ทำให้มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น ใช้พลังงานเยอะ บางคนพุ่งความสนใจไปกับงานเป็นหลักจนทำให้พักผ่อนไม่เต็มที่ ผิวพรรณขาดความชุ่มชื่น มีปัญหาริ้วรอยและความหมองคล้ำ ระบบเผาผลาญเริ่มลดประสิทธิภาพลง

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • ธัญพืชไม่ขัดขาว  มีคุณค่าทางอาหารหลายชนิด แหล่งคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดี ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ช่วยรักษาระดับพลังงานในร่างกายให้คงที่
  • อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว เพื่อช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพลง ชะลอการเกิดออกซิเดชั่นซึ่งเป็นตัวการทำให้แก่เร็วขึ้น 
  • เสริมแคลเซียม เพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรง เพราะหลังจากนี้มวลกระดูกจะเริ่มกร่อนตัวลง จึงต้องทานอาหารที่เสริมสร้างมวลกระดูกทดแทนส่วนที่สึกหรอไป

ผู้หญิงวัย 40+ : วัยแห่งความมั่นคง จริงจังในการดำเนินชีวิต

ชีวิตมั่นคงขึ้น ภาระหน้าที่การงานยังคงเยอะเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิม เป็นช่วงวัยที่เริ่มสูญเสียมวลกระดูก และมีระยะเวลาการสูญเสียที่รวดเร็วขึ้นในวัยหมดประจำเดือน เนื่องมาจากฮอร์โมนเพศหญิงลดลงร่างกายเกิดการสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่เห็นได้อย่างชัดเจน 

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • เน้นทานอาหาร Superfood  อาหารกลุ่มนี้มักจะประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีน เป็นกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ละชนิดมีสารอาหารต่างกันออกไป เช่น แซลมอน โยเกิร์ต ไข่ ชาเขียว อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อัลมอนด์
  • อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แถมยังดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย เช่น ผักและผลไม้สด ข้าวกล้อง ธัญพืชและถั่วต่างๆ  
  • โอเมก้า 3 กรดไขมันที่จำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางชนิดและช่วยปรับฮอร์โมนให้สมดุล

ผู้หญิงวัย 50+ : เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายครั้งสำคัญ

วัยที่เดินทางเข้าสู่วัยทองเต็มรูปแบบ ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงถึงขีดสุด เป็นวัยที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอลง อาจเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น เจอความเสี่ยงสารพัดโรค เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคเบาหวาน ภาวะกระดูกพรุน โรคหัวใจ เป็นวัยที่ต้องใส่ใจดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • อาหารที่มีวิตามินอี พบมากในน้ำมันจากพืช จมูกข้าวสาลี เมล็ดพืช กะหล่ำปลี ผักโขม บรรเทาอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้
  • แคลเซียมและวิตามินดีสูง แคลเซียมช่วยให้กระดูกแข็งแรง วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ในช่วงวัยทอง หากขาดสารอาหารชนิดนี้  อาจทำให้เกิดปัญหากระดูกพรุนตามมาได้
  • อาหารที่มีไบโอตินและสังกะสี กลุ่มสารอาหารที่มีบทบาทต่อสุขภาพเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง

ผู้หญิงวัย 60+ : วัยสูงอายุที่ต้องใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ

วัยเกษียณที่อาจไม่ได้เกษียณในชีวิตจริง เป็นการก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ  เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร อาการนอนไม่หลับ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ บางคนมีปัญหาข้ออักเสบ  และยังมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • เน้นผักผลไม้หลากสี มีทั้งสีเขียว สีแดง สีม่วง สีเหลืองหรือส้ม และสีขาว แต่ละสีมีสารอาหารและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ได้
  • เสริมสร้างแคลเซียมให้ร่างกาย เพื่อป้องกันภาวะกระดูกเปราะ กระดูกบาง หรือกระดูกพรุน
  • ใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ให้ทำงานดียิ่งขึ้น ทำหน้าที่เหมือนไม้กวาดช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร 

ผู้หญิงวัย 70+ : เพชรเม็ดงามแห่งกาลเวลา

ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสภาพลงตามวัย การเคลื่อนไหวแย่ลง สุขภาพฟันไม่แข็งแรง อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นวัยที่ต้องใส่ใจดูแลเรื่องอาหารการกินให้สมดุล 

สิ่งที่คุณต้องการ: 

  • อาหารที่อุดมด้วยโปรไบโอติก พบใน โยเกิร์ต กิมจิ ชาหมัก ช่วยเสริมการทำงานของแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร แถมยังดีต่อสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย
  • อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม เพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไป หรืออาจได้รับไม่เพียงพอ
  • อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ เช่น น้ำมันตับปลา ผลิตภัณฑ์จากนม ผักที่มีสีส้ม สีเหลือง และเขียวเข้ม ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ 
  • เสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากประสิทธิภาพของการดูดซึมธาตุเหล็กลดลง อาจเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจาง

อายุเป็นเพียงตัวเลขที่ไม่อาจพรากความงามไปได้ แม้จะเจอกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคงความสวยสมวัยเอาไว้ได้ สิ่งสำคัญคือ การใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทุกส่วน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตนั่นเอง 

ติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ

เคล็ดลับกินอย่างไรให้สวย แข็งแรงสมวัยในแต่ละช่วงอายุ
เคล็ดลับกินอย่างไรให้สวย แข็งแรงสมวัยในแต่ละช่วงอายุ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here