ในบทความตอนที่แล้วทางผู้เขียนได้แบ่งปันข้อมูลเมื่อเกิดปัญหาเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหวคุณจะมีวิธีการจัดการเช่นไรได้บ้าง สำหรับในบทความตอนนี้เราจะพาทุกคนผู้เป็นหนี้ไปดูครับว่า เมื่อใดที่คุณเริ่มบิดพลิ้วและไม่ยอมจ่ายหนี้คุณจะต้องพบเจอสิ่งใดบ้างในกระบวนการตามทวงหนี้ ซึ่งต้องขอบอกเลยครับว่ากระบวนการต่าง ๆที่เกิดขึ้นนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการเบา ๆก่อนจะขยับความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆจนกว่าคุณจะกลับมาชำระหนี้เช่นเดิมครับ สำหรับ7 สิ่งที่จะเกิดเมื่อไม่จ่ายหนี้มีอะไรบ้าง เราจะมาดูไปพร้อม ๆกันครับ
7 สิ่งที่จะเกิดเมื่อไม่จ่ายหนี้อะไรคือสิ่งที่คุณจะเจอเมื่อตัดสินใจเบี้ยวหนี้
1. โดนทวงถามการชำระหนี้คืนคือขั้นตอนแรกที่เบาที่สุดที่คุณจะเจอ
เมื่อใดก็ตามที่คุณหยุดการชำระหนี้และระบบของทางเจ้าหนี้ตรวจพบ การทวงถามหนี้จะเป็นสิ่งแรกที่คุณจะต้องพบเจอครับ ซึ่งรูปแบบของการทวงถามหนี้ในปัจจุบันจะเริ่มต้นตั้งแต่การส่งข้อความ SMS หรือจดหมายทวงถามเพื่อติดตามหนี้จากเจ้าหนี้ของคุณครับ ซึ่งหากคุณยังคงเพิกเฉยต่อการชำระหนี้อีกทางเจ้าหนี้ก็ใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือในการติดตามทวงหนี้คุณต่อไป ซึ่งการถูกโทรศัพท์ติดตามหนี้อาจก่อให้เกิดความรำคาญให้แก่คุณได้เช่นกันเพราะทางเจ้าหนี้อาจจะไม่ได้เลือกเวลาในการทวงถามที่แน่นอน ซึ่งบ่อยครั้งก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่คุณกำลังทำงานอยู่ได้และอาจทำให้คุณต้องเสียสมาธิในการทำงานไปด้วย การติดตามทวงหนี้นี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนแรกที่คุณขาดการชำระหนี้ไปจนถึงหลังผ่านไป 2-3 เดือนซึ่งขึ้นอยู่กับว่าทางเจ้าหนี้ของคุณมีนโยบายในการติดตามทวงหนี้อย่างไร
2. เสียประวัติ เสียเครดิตซึ่งจะส่งผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงินของคุณในอนาคต
เมื่อคุณเริ่มเบี้ยวไม่ชำระหนี้ ทางสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ของคุณจะต้องรายงานสถานะการชำระหนี้ของคุณไปยัง “ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเครดิตบูโรครับ ซึ่งหากคุณชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลในเครดิตบูโรของคุณก็จะรายงานสถานะการชำระหนี้ของคุณว่าปกติ แต่เมื่อใดที่คุณเริ่มไม่ชำระหนี้ข้อมูลที่แสดงในเครดิตบูโรก็จะขึ้นสถานะผิดนัดชำระทันที คุณอย่าคิดว่าประวัติการผิดนัดชำระหนี้จะไม่มีผลเสียต่อคุณนะครับเพราะข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในเครดิตบูโรเป็นระยะเวลาประมาณ 36 เดือนหรือ 3 ปี และใช้เป็นแหล่งตรวจสอบสำหรับสถาบันการเงินที่ต้องการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้า หากคุณเสียประวัติไปแล้วต่อไปในอนาคตเมื่อคุณจำเป็นต้องขอสินเชื่อเพื่อเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งก็มีโอกาสสูงมากที่คุณจะไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อครับ
3. ดอกเบี้ยผิดนัดชำระและค่าปรับที่จะทะยานขึ้นจนสร้างปัญหาใหญ่ให้แก่คุณ
เมื่อคุณผิดนัดชำระหนี้ ใช่ว่าเจ้าหนี้จะปล่อยคุณไปเฉย ๆหรือแค่การส่งจดหมายทวงถามหนี้เท่านั้น เพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณขาดส่งสิ่งที่คุณจะต้องเจอแน่ ๆก็คือเบี้ยปรับการชำระหนี้ล่าช้ารวมไปถึงดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระที่จะพุ่งสูงขึ้นกว่า 1 เท่าตัวที่จะสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้แก่คุณอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหากคิดจะเบี้ยวหนี้คุณก็อาจจะต้องคิดดี ๆ ครับเพราะท้ายที่สุดคุณอาจต้องชำระหนี้ในอัตราที่สูงขึ้นกว่าเดิมมากนั่นเอง
4. เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี
เมื่อการทวงถามหนี้จากคุณไม่เป็นผล ช่องทางที่เจ้าหนี้ของคุณจะเริ่มต้นใช้เพื่อเร่งรัดให้คุณชำระหนี้ให้แก่พวกเขาก็คือการฟ้องร้องดำเนินคดีแก่คุณครับ แต่กว่าจะถึงขั้นตอนนั้นทางเจ้าหนี้จะนัดหมายให้คุณไปเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งโดยมากทางเจ้าหนี้จะยื่นข้อเสนอต่าง ๆให้แก่คุณเพื่อช่วยลดภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นก่อนไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ย การประนอมหนี้บางส่วนรวมไปถึงการปรับเปลี่ยนอัตราการชำระหนี้เสียใหม่เพื่อให้คุณสามารถชำระหนี้คืนได้ แต่เมื่อการเจรจายังไม่ลงตัวและทั้งคุณและเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ก็อาจจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไปครับ
5. การสู้คดีในชั้นศาล
เมื่อคุณและเจ้าหนี้ไม่สามารถตกลงกันได้ก็ถึงคราวที่คุณต้องรอหมายศาลเพื่อเรียกตัวไปต่อสู้คดีกันในชั้นศาลครับ ซึ่งหากคุณหนีหนี้สินจริงก็มีโอกาสที่เจ้าหนี้จะชนะคดีเกือบร้อยเปอร์เซนต์เว้นเสียแต่ว่าคุณมีหลักฐานว่าหนี้สินที่คุณมีนั้นไม่เป็นธรรม เช่นการคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่แม้นว่าคุณจะผิดจริง ๆคุณก็ยังคงต้องไปต่อสู้คดีที่ชั้นศาลอยู่ดีเพราะคุณมีโอกาสที่จะได้ไปขอลดหนี้สินบางส่วนลงได้ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่โดยศาลจะเป็นตัวกลางช่วยในการไกล่เกลี่ยให้แก่คุณและเจ้าหนี้ครับ แต่ถ้าคุณเพิกเฉยไม่ยอมเดินทางไปตามที่ศาลนัดก็จะเข้าสู่เกณฑ์ที่เรียกว่าลูกหนี้ขาดนัด และศาลจะพิจารณาคดีโดยการฟังความจากเจ้าหนี้เพียงฝ่ายเดียวโดยที่คุณไม่มีโอกาสได้ไกล่เกลี่ยอะไรเลย และท้ายที่สุดก็จะไม่มีใครช่วยอะไรคุณได้อีกเลยและคุณจำต้องรับสภาพไปตามที่ศาลตัดสินนั่นเอง
6. โดนอายัดทรัพย์สินและถูกยึดทรัพย์
เมื่อคำพิพากษาออกมาเป็นเด็ดขาดว่าเจ้าหนี้ของคุณชนะคดี แล้วคุณยังไม่ไปชำระหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ขั้นตอนต่อไปก็คือการออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของคุณเพื่อไปชำระคืนให้กับเจ้าหนี้ครับ ในกรณีนี้จะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ หากเป็นหนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ เจ้าหน้าที่บังคับคดีก็จะเป็นผู้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของคุณที่สืบทราบได้เพื่อนำไปขายทอดตลาดและนำเงินไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้จนครบจำนวนครับและยังรวมไปถึงเงินเดือนของคุณด้วยเช่นกันหากคุณเป็นพนักงานเอกชนและมีเงินเดือนเกิน 2 หมื่นบาทครับ
อีกกรณีหนึ่งคือหากหนี้ก้อนนั้นเป็นหนี้ที่เกิดจากการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่บังคับคดีก็จะทำการยึดอสังหาริมทรัพย์นั้นและนำไปขายทอดตลาดครับ และหากการขายทอดตลาดนั้นมีมูลค่าที่สูงกว่ามูลหนี้ หลังจากที่ชำระหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้จนครบจำนวนส่วนต่างนั้นก็จะถูกชำระคืนให้แก่คุณครับ แต่หากทรัพย์สินที่นำไปขายทอดตลาดมีมูลค่าต่ำกว่ามูลหนี้ทางเจ้าหน้าที่บังคับคดีก็จะติดตามทรัพย์สินอื่น ๆของคุณเพื่อนำไปขายทอดตลาดจนครบตามจำนวนหนี้ที่คุณมี
7. ถูกฟ้องล้มละลาย
หากคุณมีหนี้สินล้นพ้นตัวจนไม่สามารถจะชำระหนี้คืนได้ หลังจากที่ถูกดำเนินการยึดทรัพย์ไปแล้วก็ยังมีมูลค่าไม่พอจะจ่ายหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้ และมีจำนวนเกินกว่า 1 ล้านบาทคุณมีโอกาสถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ครับ
การเป็นบุคคลล้มละลายถือว่าคุณล้มเหลวด้านการเงินอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว เพราะคุณจะไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้อีกเลยแม้กระทั่งการเปิดบัญชีธนาคารครับ และหากคุณมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศก็ไม่สามารถทำได้และต้องขออนุญาตก่อนทุกครั้ง แต่การเป็นบุคคลล้มละลายก็มีระยะเวลากำหนดที่ 3 ปีครับจึงจะพ้นสถานการณ์เป็นบุคคลล้มละลายได้ และจำเป็นต้องเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลตามกำหนดเป็นประจำ หากคุณไม่ยอมไปรายงานตัวต่อศาลก็มีโอกาสที่ศาลจะเพิ่มระยะเวลาการเป็นบุคคลล้มละลายของคุณไปอีกเป็น 5 ปี หรือ 10 ปีได้
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนที่คุณจะต้องพบเจอเมื่อคุณผิดนัดชำระหนี้ครับซึ่งจะค่อย ๆ หนักขึ้นไปตามลำดับจนถึงขั้นการเป็นบุคคลล้มละลาย ดังนั้นการมีหนี้คือภาระหน้าที่ที่คุณจะต้องชดใช้หนี้สินคืนให้แก่เจ้าหนี้ของคุณอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ การที่คุณจะสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมดโดยไม่บิดพลิ้วได้ก็มาจากการมีวินัยทางการเงินที่เข้มแข็งของคุณครับแล้วคุณจะไม่มีปัญหาใด ๆเลยจากหนี้สินที่คุณมี แล้วพบกันใหม่ในตอนถัดไปกับซีรี่ย์ “ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” ในตอนต่อไปครับ
ติดตามบทความดี ๆทางช่องทางโซเชี่ยลได้ที่นี่ครับ

[…] ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ตอ… […]
[…] << ตอนที่ 8 // ตอนที่ 10 >> […]