“วัยทำงาน” วัยที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะเดียวกันก็ต้องแบกความรับผิดชอบหลายอย่าง ต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงตัวเอง ครอบครัว รวมถึงบุพพการี แถมยังต้องรับมือกับแรงกดดันที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน สำหรับบางคนการทำงานนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์เหลือเกิน หากปล่อยให้ความรู้สึกนี้กัดกินจิตใจต่อไป อาจก่อให้เกิด “ภาวะเครียด” ซึ่งอาจนำไปสู่ “ภาวะซึมเศร้า” ได้ ดังนั้นการมีสุขภาพกายและใจที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุขแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้สูงวัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มาดูกันมีกิจกรรมอะไรบ้างที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด สร้างสุข ส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
5 กิจกรรมคลายเครียดของวัยทำงาน
- กิจกรรมงานอดิเรก
กิจกรรมยามว่างที่แตกต่างกันไปตามความสนใจ ความชื่นชอบ ความสนุกสนาน และความถนัดของแต่ละคน การมีงานอดิเรกช่วยเพิ่มความสุขทั้งทางกายและใจ สำหรับบางคนที่รู้สึกเครียด เศร้าหมอง การปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ บางครั้งกลับเป็นการสร้างความเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะมัวแต่คิดหมกหมุ่นในเรื่องที่ทำให้รู้สึกหดหู่ จมดิ่งอยู่กับความคิดนั้นไปเรื่อยๆ งานอดิเรกสามารถช่วยผ่อนคลายอารมณ์ และลดความเครียดจากการทำงานได้ สำหรับวัยทำงานที่มีเวลาจำกัด ควรเลือกงานอดิเรกที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากจนเกินไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนจะเลือกงานอดิเรกที่ทำคนเดียวตามลำพังหรือทำร่วมกับผู้อื่นนั้น ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน
- กิจกรรมที่ช่วยฝึกจิตใจ
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก กดดัน ส่งผลให้ระดับความเครียดพุ่งสูง มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถปล่อยวางหรือจัดการกับอารมณ์อันพุ่งพล่านในขณะนั้นได้ ส่งผลให้ขาดสติในการแก้ปัญหา ตัดสินใจผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบ สำหรับวัยทำงานที่มีอาการเครียดและวิตกกังวล แนะนำให้ลองกิจกรรมที่ช่วยฝึกจิต เช่น การฝึกควบคุมการหายใจ การนั่งสมาธิ การฝึกโยคะ เป็นต้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างสมาธิ จิตใจเกิดความสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน รู้สึกผ่อนคลาย แถมยังช่วยในเรื่องความจำได้ดี ส่งผลดีต่อสุขภาพใจให้เข้มแข็ง รับมือกับความวิตกกังวลในจิตใจได้ดีขึ้น สามารถช่วยลดภาวะเครียด บำบัดเศร้า นอนหลับสนิทขึ้น ช่วยขัดเกลาอารมณ์และจิตใจให้เกิดความสมดุลต่อร่างกาย
- กิจกรรมทางสังคม
การอยู่คนเดียวบ่อยๆ ก็ต้องรู้สึกเหงาบ้างเป็นธรรมดา โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยทำงานที่อยู่ในวัยกลางคน กำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุ ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจ จึงต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการรับมือทางอารมณ์ที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างไร้ความสุข การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เช่น คลาสเรียนต่างๆ งานนิทรรศการ งานจัดแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา ชมรมอาสาสมัคร หรือพบปะเพื่อนฝูง ช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น ไม่รู้สึกเหงา แถมยังเปิดโอกาสให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ อาจได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ได้ใช้เวลากับคนอื่นๆ หรือพาไปเจอกับโอกาสที่คุณเองอาจคาดไม่ถึง ทั้งนี้ก็ต้องบาลานซ์ระหว่างการใช้ชีวิตส่วนตัว และการใช้ชีวิตในสังคมให้ดี
- กิจกรรมออกกำลังกาย
ความเหนื่อยล้าจากการใช้ร่างกายอย่างหนัก ประกอบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ แม้จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หากสุขภาพเสื่อมโทรม จะมีความสุขได้อย่างไร การออกกำลังเป็นหนึ่งในพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี คนวัยทำงานที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย นั่งในท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จึงควรหันมาดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉง เพิ่มพลังกาย พลังใจ พลังความคิด กระตุ้นประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหาร ช่วยให้อารมณ์ดี คลายเครียด มีสมาธิมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
- กิจกรรมการท่องเที่ยว
วัยทำงานที่เหนื่อยล้ากับการทำงานมาตลอดทั้งปี ทุ่มเทให้กับการทำงานมากเกินไป จนไร้ความสุข เกิดความเครียด กระทบต่อสุขภาพ หลายคนใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แค่ที่บ้าน สถานที่ทำงาน และบนท้องถนน จึงควรหาเวลาเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ปล่อยวางจากทุกเรื่อง ปลดล็อคด้วยการออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นๆ หรือระยะยาว อย่างน้อยก็ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้เรียนรู้และเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น การเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน เป็นการเปิดหูเปิดตา ได้เจอมุมมองที่แตกต่างออกไปจากกรอบความคิดแบบเดิมๆ กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว เมื่อได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยและเจอกับผู้คนแปลกหน้า บางทีอาจได้ไอเดีย แรงบันดาลใจใหม่ๆ กลับมาสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องรู้จักสร้างสมดุลการใช้ชีวิตให้ครบทุกด้านเช่นกัน หลายคนเครียดกับงานจนทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน จึงควรหากิจกรรมเข้ามาช่วยสร้างความผ่อนคลาย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การแบ่งเวลาแม้เพียงเล็กน้อยไปทำในสิ่งที่ชื่นชอบ ช่วยให้ลืมความวิตกกังวลไปชั่วขณะ ความคิดและอารมณ์ต่างๆ ก็จะดีขึ้นตามมา หากทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นประจำ ก็จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ
