กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญครับ ทุก ๆ คนต้องการกำลังใจที่จะต่อสู้และฝ่าฟันทุกอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต มีคนกล่าวยกย่องกำลังใจเอาไว้ว่าเป็นเสมือนยาชูกำลังขนานใหญ่และเป็นดั่งพลังงานบวกที่เป็นแรงส่งให้ผุ้คนเดินทางสู่ฝั่งฝันครับ แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่คนะรรมดาที่ต้องการกำลังใจเท่านั้น ในยามที่ร่างกายมีปัญหาเจ็บป่วยพวกเราก็ล้วนต้องการกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคภัยเช่นกันครับ และยาชูกำลังที่ว่านี้ก็มีผลต่ออาการป่วยมากกว่าที่เราคิดจริง ๆ เพราะมีเรื่องราวจำนวนไม่น้อยของผู้ป่วยหนักที่กลับมามีอาการดีขึ้นเพราะผลจากกำลังใจจากคนรอบข้างนั่นเอง เหตุใดกำลังใจจึงส่งผลต่ออาการป่วยเราลองมาทำความรู้จักกับ 3 วิธีสร้างกำลังใจกับการรักษาโรคกันครับ
จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกับวลีข้างต้นนี้เป็นอย่างดีครับ เพราะความหมายของวลีนี้ก็ตรงไปตรงมาที่ว่าจิตใจของเรามีอำนาจและอิทธิพลเหนือกว่าร่างกายครับ หากจิตใจของเราในขณะนั้นรู้สึกอย่างไรก็จะแสดงผลออกมาที่ลักษณะท่าทางของเราครับ เช่น หากจิตใจของเรากำลังมีความสุข ภาษากายของเราก็จะแสดงให้เห็นถึงความสุขที่เกิดขึ้นในใจครับ ในทำนองเดียวกันหากจิตใจของเรากำลังมีความทุกข์หรือความารู้สึกห่อเหี่ยว ภาษากายของเราก็จะแสดงออกถึงความรู้สึกด้านลบที่อยู่ในจิตใจได้เช่นกัน ซึ่งรวมไปถึงความรู้สึกกระวนกระวายใจ ความตื่นเต้น ความเครียดครับ บางรายนอกจากจะแสดงออกมาเป็นอากัปกิริยาต่าง ๆ ก็อาจแสดงออกมาในรูปแบบของความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายเช่นปวดศรีษะ ปวดท้อง ท้องเสีย เป็นต้น
อิทธิพลต่อจิตใจนอกจากจะส่งผลต่อการแสดงออกทางกายก็ยังแสดงออกในรูปของเป้าหมายในชีวิตได้เช่นกันครับ บางคนมองเป้าหมายชีวิตไว้สูงและตั้งเป้าหมายเส้นทางเดินให้แก่ตัวเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พวกเขามักจะใช้เป้าหมายชีวิตนี้เองเป็นแรงขับเคลื่อนหรือ “Drive” ให้ชีวิตของตนเองก้าวไปข้างหน้าให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายที่ตนเองวางไว้
ในผู้ป่วยที่มีอาการหนักจิตใจของเขาจึงยิ่งมีความสำคัญต่อโอกาสในการหายป่วยไม่ต่างไปจากวิธีการรักษา
ผลของจิตใจต่อการแสดงออกทางร่างกายและเป้าหมายของชีวิตนอกจากจะมีความสำคัญต่อคนปกติธรรมดาแล้ว ในผู้ป่วยที่มีอาการหนักหรือมีระยะในการดำเนินโรคที่ค่อนข้างรุนแรงและที่สำคัญคือยังมีสติและการรับรู้ที่ดีอยุ่ สภาพจิตใจของผู้ป่วยยิ่งมีความสำคัญต่อการพยากรณ์โอกาสที่จะหายป่วยครับ หากผู้ป่วยคนนั้นมีกำลังใจดี มีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความรู้สึกว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ แม้พวกเขาจะป่วยหนักเพียงใดแต่อาการที่แสดงออกก็อาจจะน้อยกว่าอาการจริง ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่ครับ และแนวโน้มการฟื้นตัวจากโรคภัยของคนในกลุ่มนี้ก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาจากอาการป่วยหรือกายป่วยได้หากว่าการดำเนินของโรคสำหรับพวกเขาไม่แย่จนเกินไปนักครับ
ในทางกลับกันหากสภาพจิตใจของผู้ป่วยไม่เข้มแข็ง ไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อและจมอยู่กับความหดหู่ เศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา ผู้ป่วยที่ตกอยู่ในสภาวะจิตใจเช่นนี้โดยมากก็มักจะมีการพยากรณ์ของโรคที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าใดนักและหลายรายก็มักจะมีอาการที่ทรุดหนักในระยะเวลาที่รวดเร็วและบางรายก็ถึงกับเสียชีวิตในที่สุด ผู้เขียนเองก็เคยรู้จักคนที่ตกอยู่ในข่ายนี้คนหนึ่งครับ เขาคนนี้เป็นผุ้หนึ่งที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งก็ตรวจพบความผิดปกติของตนเองเกี่ยวกับระบบขับถ่ายจึงไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา ผลจาการตรวจอย่างละเอียดจึงพบว่าความผิดปกตินั้นมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งลำไส้ เมื่อทราบถึงโรคที่ตนเองเป็นเขาถึงกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต จิตใจตกอยู่แต่กับภาวะความเศร้าและหดหู่จึงทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วและจากไปหลังจากนั้นเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ทั่ง ๆ ที่ในวันแรกที่เขาไปหาหมอเขาแทบไม่มีอาการแสดงถึงความเจ็บป่วยเลยด้วยซ้ำ
ผลจากกำลังใจที่ดีมีผลต่อการรักษาโรคมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
ผลของการมีกำลังใจที่ดีที่ส่งผลต่อการรักษาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เขียนสัมผัสมาได้ด้วยตนเองเช่นกันครับ โดยผู้เขียนเองก็มีรุ่นพี่อยู่ท่านหนึ่งซึ่งเธอคนนั้นตรวจพบความผิดปกติเกิดขึ้นที่บริเวณเต้านมของเธอ เธอเองก็ไม่นิ่งนอนใจและไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจประเมินว่าความผิดปกติที่พบนั้นคืออะไร ผลจากการตรวจโดยละเอียดบ่งชี้ว่ารุ่นพี่ของผู้เขียนเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สามและพบเซลล์มะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองซึ่งแสดงถึงการลุกลามของโรคครับ สิ่งที่รุ่นพี่ของผู้เขียนทำเป็นอย่างแรกคือ”การตั้งสติ” และปรึกษากับแพทย์ถึงแนวทางและขั้นตอนในการรักษาอย่างละเอียด ซึ่งต้องยอมรับว่ารุ่นพี่คนนี้ของผู้เขียนมีกำลังใจที่ดีมากซึ่งส่วนหนึ่งของกำลังใจนี้ก็มาจากทั้งครอบครัว พี่น้องและเพื่อนฝูงของรุ่นพี่ท่านนี้ครับ และรางวัลของการมีกำลังใจที่ดีและจิตใจที่เข้มแข็งของรุ่นพี่ผู้เขียนท่านนี้คือ เซลล์มะเร็งได้ตอบสนองต่อผลของการรักษาทั้งการผ่าตัดและการทำคีโมบำบัดครับ และทำให้ไม่หลงเหลือเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกายเลย ซึ่งแม้การรักษาจะมีผลข้างเคียงอยู่บ้างแต่รุ่นพี่ท่านนี้ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ด้วยจิตใจที่เข็มแข็งและกำลังใจดี ๆ จากคนรอบข้างนั่นเอง
3 วิธีสร้างกำลังใจกับการรักษาโรค: ญาติจะสร้างกำลังใจให้กับผู้ป่วยได้อย่างไรเพื่อให้พวกเขามีพลังที่จะต่อสู้กับโรคภัยที่กำลังเผชิญ
1. ปรับทัศนคติร่วมกันระหว่างญาติและผู้ป่วย
เมื่อใครสักคนในบ้านป่วยเป็นโรคร้ายแรง แน่นอนว่าความเสียใจย่อมเกิดขึ้นกับทุกคนในบ้านอย่างแน่นอน สิ่งที่ญาติและผุ้ป่วยจะต้องทำร่วมกันคือการปรับทัศนคติของตนเองเสียใหม่ โดยอย่าปล่อยให้บรรยากาศในบ้านมีแต่ความหดหู่ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งญาติและตัวผุ้ป่วยครับ การตั้งสติให้มั่นคงยอมรับความจริงในสิ่งที่เข้ามาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจะทำให้ทั้งญาติและผู้ป่วยสามารถวางแผนรับมือกับการรักษาที่จะตามมาครับ
2. ระมัดระวังคำพูดหรือการกระทำที่จะมาบั่นทอนกำลังใจ
คำพูดหรือการกระทำบางอย่างแม้จะเกิดจากความหวังดีและห่วงใยแต่ในหลาย ๆ ครั้งสิ่งนี้กลับบั่นทอนกำลังใจของผุ้ป่วยและญาติได้ครับ บางครั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับโรคที่ผู้ป่วยเป็นหรือการขอให้ผู้ป่วยเล่าเรื่องโรคของตนเองซ้ำ ๆ กลับเสมือนยิ่งตอกย้ำให้ผู้ป่วยรู้สึกแย่ครับ ซึ่งญาติอาจต้องชี้แจงและทำความเข้าใจให้ผู้ที่มาเยี่ยมได้เข้าใจถึงจุดนี้เช่นกัน สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำก็คือ “การทำตัวให้เป็นปกติที่สุด” เพื่อที่ผุ้ป่วยจะไม่รู้สึกว่าตนเองต้องกลายมาเป็นภาระของครอบครัวและคนใกล้ชิด
3. อย่าให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าต้องต่อสู้อยู่เพียงลำพัง
ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะในระหว่างกระบวนการรักษาผู้ป่วยหลายรายมักรู้สึกท้อแท้ขึ้นในบางครั้ง ญาติจึงไม่ควรปล่อยให้ผุ้ป่วยรู้สึกว่าตนเองต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่ให้แสดงออกถึงความห่วงใยและการให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยในระหว่างกระบวนการรักษาครับ ทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นคนสำคัญที่เราพร้อมจะร่วมต่อสู้ไปด้วยกันจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคของตนเองครับ
กำลังใจจึงเป็นเรื่องสำคัญมากหากคนในครอบครัวต้องล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรง เพราะกำลังใจเป็นเสมือนกองหนุนชั้นยอดที่จะทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคที่ตนเป็น อย่าละเลยที่จะสร้างกำลังใจในการต่อสู้ให้กับพวกเขาเพราะสิ่งนี้แหละคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดจากคนที่เขารักครับ
ติดตามเรื่องราวดี ๆผ่านโซเชี่ยลมีเดียได้ทางนี้ครับ
