6 เทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียด คลายความกังวล ช่วยให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น

1
1537
เทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียด

เป็นเรื่องธรรมดาที่บางช่วงของชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือเผชิญกับความกดดันจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะรอบด้านบางอย่าง จนทำให้รู้สึกเครียด เกิดความกังลแต่ถ้าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเป็นเวลานานจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต รู้สึกไม่มีความสุข หดหู่ใจ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังประสบกับปัญหาบางอย่าง แต่ก่อนที่จะปล่อยให้ตัวเองไปถึงจุดนั้น เรามีเทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียด ลดความกังวล ช่วยให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น มาฝากกัน

6 เทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียด

  1. กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้น

เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แต่ละคนมีวิธีรับมือกับปัญหาต่างกัน และมีภูมิต้านทานในการทำใจยอมรับสิ่งต่างๆ ไม่เท่ากัน ทางเดียวที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นก็คือ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเหตุการณ์จะแย่แค่ไหน หากเรามองโลกตามความเป็นจริง ก็จะเข้าใจปัญหามากขึ้น สำหรับบางเรื่องไม่จำเป็นต้องคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีเสมอไป เมื่อเรายอมรับว่ากำลังเผชิญกับปัญหา แม้จะยังไม่รู้สึกดีขึ้นในตอนแรก แต่ก็ช่วยไม่ให้ความรู้สึกในแง่ลบติดค้างอยู่ในใจนานเกินไป

  1. เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

เมื่อเกิดความ “คาดหวัง” หากไม่ “สมหวัง” มักจะตามมาด้วยความ “ผิดหวัง” เสมอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลิกคาดหวัง เพียงแต่ว่าเรื่องบางเรื่องเราไม่อาจตั้งความหวังไว้ได้ โดยเฉพาะกับตัวบุคคล หากเป็นเรื่องงาน ความคาดหวังย่อมตามมาพร้อมกับความกดดัน บางคนเลือกที่จะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว บางคนคิดเล็กคิดน้อยอยู่ภายในใจ จนมาถึงจุดที่ร่างกายและจิตใจรับไม่ไหว บางเรื่องก็ควรตัดทิ้งออกไปบ้าง ไม่ต้องเก็บมาคิดมาก เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับดูแลใจเราเอง

  1. ให้กำลังตัวเอง

เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกเครียด รู้สึกกดดัน คนแรกที่ควรนึกถึงก็คือตัวเอง เราต้องประคับประคองจิตใจให้ไปต่อได้ ถ้าสถานการณ์มันแย่กว่าที่คิดไว้หรือหนักหนาเกินจะรับไหว เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ ลองบอกกับตัวเองว่า “ไม่เป็นไร” เพราะในช่วงเวลาแบบนี้บางทีก็คิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออก ทางเดียวที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ทันทีคือ ให้กำลังใจตัวเอง ใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพัก หันไปหากิจกรรมอื่นทำที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยให้หลุดจากวงโคจรของความเครียด ความฟุ้งซ่านก่อน รอให้อารมณ์ดีขึ้นแล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากัน 

  1. ปลดปล่อยและระบายความรู้สึกออกมา

หลายครั้งที่บางสถานการณ์ทำให้รู้สึกอึดอัด หรือเจอกับปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ จนไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ยิ่งเก็บมาคิดก็ยิ่งเครียด ปัญหาเก่ายังไม่ทันหาย ปัญหาใหม่ก็แทรกเข้ามา เราจะใช้ชีวิตได้อย่างไรในขณะที่ต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆ นี้ติดตัวไปด้วยตลอด ควรหาทางปลดปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระจากพันธการทางความคิดที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะร้องไห้คนเดียว เล่าให้ใครสักคนฟัง ออกไปเที่ยว ไปทำในสิ่งที่ชอบ อย่าเก็บความเครียดไว้คนเดียว เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบ้าง

  1. ออกจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นใจ

บางทีเราอาจต้องเจอกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่จากความคิด และการกระทำของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนรัก ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ยิ่งเป็นคนใกล้ตัว ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด หลายครั้งที่สถานการณ์บีบคั้น มักเกิดจากความเกรงใจ กลัวจะกระทบความสัมพันธ์ แต่ขอให้นึกเสมอว่า เราเองก็มีชีวิตส่วนตัวที่ต้องจัดการ มีเป้าหมาย มีสิ่งที่อยากจะทำไม่ต่างจากคนอื่นเช่นกัน หากเราอยู่ท่ามกลางคนประเภทที่ทำตัวแย่ ไม่เคยมองว่าอะไรในชีวิตนั้นดีเลย บางทีการเลือกเดินออกจากสิ่งที่สร้างมลพิษทางความรู้สึกน่าจะเป็นทางออกที่ดี

  1. รู้ทันความรู้สึกที่ไม่ส่งผลดี

เพราะบางอย่างในชีวิต เราไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด การรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร ช่วยให้จัดการกับความรู้สึกนั้นได้เร็วและดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ถูกความเครียดรุมเร้า ก็ต้องรีบหาทางให้จิตใจปรับคืนสู่สมดุลให้เร็วที่สุด เมื่อเกิดความรู้สึกทุกข์ใจไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านลบใดก็ตาม การรู้ให้ทันตัวเอง จะช่วยยับยั้งไม่ให้จมอยู่กับความรู้สึกนั้นนานเกินไป เมื่อฝึกบ่อยๆ หากมีอะไรมากระทบต่อความรู้สึกของเรา บางทีเราเลือกที่จะรับรู้ แล้วปล่อยผ่านไปได้ โดยที่ไม่เก็บเอามาเป็นความเครียดสะสมให้จิตใจหม่นหมอง

อาจไม่จำเป็นต้องปฏิเสธอารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นก็ได้ เพียงแต่ต้องรู้วิธีในการรับมือกับปัญหา เพื่อจัดการกับอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ในช่วงที่ต้องเจอกับความเครียด ความกดดัน หรือวิตกกังวล มองหาเทคนิคผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง ที่ช่วยให้จิตใจเราสงบ เมื่อเราสามารถจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ

เทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียด

1 ความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here