เหนื่อยท้อ ต้องการกำลังใจทำอย่างไรจึงจะเติมกำลังใจให้ตัวเอง: 6 วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

6 วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้สึกท้อถอยครับ ความท้อแท้เกิดขึ้นกับเราได้ทุกคนแม้กระทั่งคนที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งก็ตาม ในบางวันที่ดูเหมือนว่าอะไร ๆจะไม่เป็นใจไปเสียทุกอย่าง เชื่อเถิดว่าความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจย่อมมีโอกาสมาเยี่ยมเยียนคุณได้อย่างแน่นอน เมื่อเราไม่อาจหลีกเลี่ยงความรู้สึกแย่ ๆเช่นนี้ได้ วิธีการที่ดีที่สุดก็คงจะเป็น “ความพยายามที่จะอยู่ร่วมกับมันและผ่านพ้นมันไปให้ได้” แต่ทว่าคำพูดนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดครับเพราะการที่จะอยู่ร่วมกับความรู้สึกท้อแท้และควาพยายามที่จะผ่านพ้นความรู้สึกแบบนี้คุณจำเป็นต้องอาศัยกำลังใจและพลังใจเป็นอย่างมากซึ่งไม่ว่าจะเป็นกำลังใจที่ได้จากคนอื่นหรือตนเองก็ตาม แต่กระนั้นมีหลายคำพูดที่บ่งบอกเอาไว้มากมายว่ากำลังใจที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราผ่านพ้นจากทุกปัญหา ทุกวิกฤติไปได้ก็คือกำลังใจที่เกิดขึ้นจากตนเองครับ ในบทความนี้เรามี6 วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองมาฝากครับ

6 วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองมีอะไรบ้างเรามาดูกัน

1. ต้องรู้จักชื่นชมตัวเองเสียบ้าง

เมื่อคนเราตั้งเป้าหมายสำคัญที่พยายามจะไต่ไปให้ถึง บางครั้งก็อาจสร้างความกดดันให้เกิดขึ้นกับตนเองโดยไม่รู้ตัวครับ และบ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นแต่ข้อเสียและความผิดพลาดของตนเองจนสิ่งที่เราเห็นในแง่ลบนี่แหละที่กลับมาบั่นทอนกำลังใจของเราจนหมดสิ้นครับ ดังนั้นลองปรับมุมมองการมองตัวเองเสียใหม่โดยพยายามมองหาข้อดีของตัวเองให้พบและชื่นชมข้อดีนั้น ๆของตัวเองเสียบ้างเพราะการที่เรามองเห็นข้อดีของตัวเองจะทำให้จิตใจของเราพองฟูว่าเราเองก็เก่งและมีความสามารถเหมือนกันซึ่งสิ่งนี้จะช่วยสร้างกำลังใจอย่างดีให้แก่ตัวของคุณเองครับ

2. มองโลกในแง่บวก มองสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านดีเข้าไว้

เป็นธรรมดาครับที่เมื่อเราเกิดความรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง เราจะรู้สึกว่าสิ่งรอบข้างของเรามันก็พลอยจะดูแย่และหม่นหมองไปเสียหมด ความรู้สึกเช่นนี้เป็นพลังงานด้านลบอย่างหนึ่งที่จะเป็นเหมือนเชื้อไฟที่คอยซ้ำเติมให้คุณรู้สึกเศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้นซึ่งหากยังปล่อยให้ความเศร้าและความหม่นหมองใจคุกคามคุณเองอยู่เช่นนี้ก็คงจะไม่ดีแน่ ๆจริงไหมครับ วิธีการที่ดีที่จะช่วยให้คุณขจัดความเศร้า ความรู้สึกท้อแท้ใจให้ดีขึ้นก็คือให้พยายามคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ และมองโลกในมุมบวกให้มากขึ้น เมื่อความคิดของเราถูกปรับเปลี่ยนไปในเชิงบวกกลายเป็นการเพิ่มพลังบวกให้แก่ตนเองเราจะรู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้มากขึ้นครับ และพลังงานบวกนี้ก็จะไปดึงดูดสิ่งดี ๆให้ตามมาอีกเช่นกัน

3. หากรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันแย่ ๆก็จงพยายามคิดถึงแต่เรื่องดี ๆ เข้าไว้

เชื่อว่าทุกคนย่อมมีสิ่งที่เมื่อคิดถึงมันแล้วจะรู้สึกฮึกเหิม รู้สึกดีเสมอและช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อยครับ สิ่งเหล่านี้ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามเช่นคำคมดี ๆที่ประทับใจ คำพูดของบุคคลที่คุณเคารพรัก หรือกิจกรรมที่คุณทำแล้วผ่อนคลายก็ตาม จงพยายามยึดมั่นในสิ่งนั้นเอาไว้ให้ดี เพราะในวันที่ความรู้สึกแย่ ๆมาจู่โจมคุณหรือวันที่คุณรู้สึกว่าอะไรต่อมิอะไรก็ดูจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย สิ่งเหล่านี้แหละครับที่จะช่วยประคับประคองจิตใจของคุณให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ ๆนี้ไปได้

4. ถ้าไม่ไหวต่อสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจจริง ๆการพาตัวเองไปอยู่จุดที่สบายใจก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีเช่นกัน

ทุกคนจะมีสิ่งที่เรียกว่า safe zone หรือที่ซึ่งมีเอาไว้เพื่อให้คุณได้พักจิตใจของคุณในยามที่ใจของคุณปั่นป่วนและท้อแท้ safe zone ที่ว่านี้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ทำให้เราผ่อนคลายสบายใจ กิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกดีหรือแม้กระทั่งใครสักคนที่พร้อมจะรับฟังเราได้ทุกเรื่อง หากคุณรู้สึกแย่จนเกินจะรับไหวก็อย่าได้ลืม safe zone ที่ว่านี้ครับเพราะมันช่วยเยียวยาจิตใจของคุณได้ดีนักแล อนึ่งอย่าได้คิดว่าการหลบไปอยู่ใน safe zone จะทำให้ใคร ๆมองว่าคุณหนีปัญหา เพราะ safe zone ที่ว่านี้เป็นเสมือนที่พักพิงจิตใจชั่วคราวที่จะทำให้คุณมีพลังที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับปัญหาต่อไปครับ

5. จงให้รางวัลตัวเองเสียบ้างจะช่วยให้คุณผ่อนคลายและพร้อมที่จะกลับไปสู้ต่อได้อีกครั้ง

การงานในปัจจุบันนอกจากจะเป็นภาระต่อเนื่องที่ยาวนานหลายปี บ่อยครั้งที่ภาระหน้าที่อันแสนจะหนักหนานี้ก็สร้างความเครียดอันนำไปสู่ความรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจได้เช่นกันครับ ยิ่งหากงานที่ทำมีอุปสรรคมารุมเร้าหลายด้านก็ยิ่งบั่นทอนกำลังใจให้ลดน้อยถอยลงไปอีก ดังนั้นการให้รางวัลกับตัวเองเสียบ้างไม่ว่าจะเป็นการซื้อของให้กับตนเอง การเดินทางท่องเที่ยวอย่างที่ชอบหรืออาหารมื้ออร่อยสักมื้อก็จะช่วยให้คุณมีกำลังใจและไฟที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อครับ

6. เหนื่อยนักก็พักก่อนได้ แต่อย่าหยุดพักนานเกินไปเพราะสุดท้ายคุณก็จำเป็นที่จะต้องไปต่อให้ได้

หากคุณรู้สึกว่าร่างกายกำลังเหนื่อยล้าจนใกล้จะถึงขีดสุดจนทำให้จิตใจของคุณอ่อนแรงและพาลให้รู้สึกหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อขึ้นมา เมื่อถึงจุด ๆนี้สิ่งที่คุณจะต้องรีบทำคือ “ต้องหยุดพักให้ตนเองหายเหนื่อยเสียก่อน” เพราะการฝืนทำอะไรก็ตามโดยที่คุณยังรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่สิ่งที่ทำได้แม้จะสำเร็จออกมาได้แต่คุณภาพของงานนั้นก็อาจจะไม่ได้มาตรฐานอย่างที่คุณต้องการครับ และอาจจะสร้างปัญหาจนทำให้คุณยิ่งหมดไฟและหมดกำลังใจมากขึ้นไปอีก การหยุดพักจะช่วยให้ร่างกายของคุณฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้าและทำให้จิตใจของคุณกลับมาพร้อมที่จะลุยงานต่อไปได้อีกครั้ง การหยุดพักครั้งนี้จึงไม่ใช่การหยุดแล้วหยุดเลย แต่เป็นการหยุดเพื่อที่จะก้าวเดินต่อไปสู่เส้นทางแห่งฝันอย่างมี่คุณต้องการครับ

บางครั้งเรื่องแย่ ๆที่ไม่ทันได้คาดคิดก็อาจจะมาเยือนคุณโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างเช่นวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในหลาย ๆด้านไม่ว่าจะเป็นสุขภาพหรือเศรษฐกิจในขณะนี้ก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังท้อแท้หรือต้องการกำลังใจเพื่อจะได้กลับไปสู้ต่อ ขั้นตอนการสร้างกำลังใจทั้ง 6 ประการข้างต้นนี้น่าจะเป็นตัวช่วยสร้างกำลังใจให้คุณผ่านพ้นอุปสรรคและวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ครับ ทางทีมงาน When I Old Up.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำแนะนำดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ให้แก่คุณอย่างที่พวกเรามุ่งหวังไว้ครับ

6 วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here