เมื่อไม่มีความสุขในการทำงาน อยากลาออกจากงานแต่ไม่อยากเสี่ยง! ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ จะทำอย่างไร

1
1638
อยากลาออกจากงาน

               ตลอดระยะเวลาของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัวหลายอย่าง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตที่เราเองก็คาดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะรุนแรงถึงเพียงนี้ แผนการต่างๆ ที่เคยวางไว้กลับต้องล้มเลิกกระทันหัน โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่กำลังเผชิญกับปัญหาการทำงาน จนถึงขั้นตัดสินใจอยากลาออก เมื่อ “ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน” ก็ต้องมาคิดหาหนทางต่อไปว่า จะทำอย่างไรหากการทำงานนั้นไร้ความสุข อยากลาออกจากงานแต่ก็ไม่อยากเสี่ยงกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้ เราอยากให้คุณหายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ หวังว่าแนวทางที่นำมาฝากกันจะช่วยให้คุณพบกับคำตอบที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณเอง

อยากลาออกจากงาน กับ 3 คำถามที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนตัดสินใจ

ลองหาสาเหตุก่อนว่า ทำไมจึงไม่มีความสุขในการทำงาน

               คุณจำได้หรือไม่ว่า ความรู้สึกสนุก มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ หรือก่อนที่จะรู้ตัวว่าไม่อยากทำงานนี้แล้ว ความรู้สึกเหล่านี้ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทุกสถานการณ์ล้วนมีที่มาที่ไป ทุกคนมีเป้าหมาย และมุมมองในการทำงานที่ต่างกัน บางคนอาจจะไม่ได้รู้สึกชอบอะไรมากมายในงานที่ทำ แต่ทำเพราะมีเหตุผลบางอย่าง บางคนรู้สึกว่าคืองานที่ใช่ในตอนแรก แต่พอผ่านไปสักพัก กลับพบว่าหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด หรืออาจไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการ อย่างน้อยก็สำหรับช่วงเวลานี้ เพราะความสุขในการทำงานนั้นมีตัวแปรต่างๆ นานา คงต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่า ความรู้สึกที่ไม่มีความสุขในการทำงานอีกต่อไป สำหรับบางคนอาจเรียกว่า “ความทุกข์” เลยก็ว่าได้ สาเหตุเกิดจากอะไร เช่น  เลิกงานแล้วก็ยังต้องคอยรับสายเรื่องงานไม่จบไม่สิ้น เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ เจ้านายห่วย ไม่มีอิสระในการทำงาน ไม่เห็นโอกาสเติบโตในงานที่กำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ พยายามมองให้เป็นกลางมากที่สุด อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง

ก่อนตัดสินใจลาออก สามารถจัดการกับปัญหานั้นได้อย่างไรบ้าง

               ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่มีผลกระทบต่อความสุขในการทำงานของเรา ย่อมมีวิธีจัดการเสมอ แต่บางเรื่องก็อยู่นอกเหนือความสามารถของเรา อย่างในกรณีที่สาเหตุเกิดจากตัวบุคคล การคาดหวังให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงนั้นทำได้ยากหรืออาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย บางทีการเปลี่ยนงานหรือแม้แต่การลาออกเอาดื้อๆ อาจจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลายคน ตัดสินใจเปลี่ยนงานหรือลาออก เพราะไม่สามารถทนและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากเพื่อนร่วมงานได้ หากเราไม่คิดเข้าข้างตนเอง พยายามทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องทน ที่แย่ไปกว่านั้นหากงานที่กำลังทำอยู่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ร่างกายเริ่มแย่ลง เจ็บป่วยบ่อยขึ้น รับรู้ได้ถึงความผิดปกติหรืออาการของโรคภัยบางอย่าง มีปัญหาความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว หงุดหงิดง่าย เครียดจัด รู้สึกเศร้าหดหู่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเราควร “หยุด”  ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก่ โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพอย่างโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว และปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องได้รับการเยียวยาอย่างจริงจัง

เมื่อฝืนต่อไปไม่ไหว ใจอยากลาออก จะเอายังไงกับชีวิตดี 

               หากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะลาออกจากงาน อย่างแรกเลยคือ ควรเตรียมตัวให้พร้อม ยิ่งในช่วงวิกฤตโควิดที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจจนหลายคนตกงาน ยิ่งต้องคิดให้เยอะกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องเงิน บางคนที่มีรายได้เสริมอยู่แล้ว ก็ช่วยคลายกังวลไปได้พอสมควร ให้ดูว่ามีหนี้สินอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ มีเงินออมเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าลาออกปุ๊บ เครียดหนักกว่าเดิมอีก อย่างน้อยในช่วงที่กำลังหางานหรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ถ้ามีเงินเก็บเพียงพอต่อการดำรงชีวิตสักระยะก็ช่วยให้ไม่ลำบากจนเกินไป คำถามถัดไปคือ จะทำอย่างไรต่อ หากยังไม่พร้อมจะหางานใหม่ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนมี นั่นคือ “ทักษะ” บางอย่าง สิ่งนี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นลู่ทางในชีวิตชัดเจนมากขึ้น ค้นหาให้เจอว่าคืออะไร แล้วพัฒนาเพิ่มพูนทักษะนี้ นำมาต่อยอดในการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในอนาคต ย่อมดีกว่ามองหาในสิ่งที่เราไม่ถนัดหรือสิ่งที่ขาด  ยิ่งในช่วงวิกฤตเช่นนี้ วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดเงินไปได้ไม่น้อย บางคนถือโอกาสเริ่มต้นทำธุรกิจ (แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตก็ตาม) ลองดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่สามารถเริ่มธุรกิจโดยไม่ใช้เงินลงทุนหรือใช้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นหรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ควรมองหาลู่ทางใหม่ทันที

               ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา หลายปัจจัยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ หลายครั้งที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย แต่จะทำอย่างไรให้สามารถปรับตัวอยู่ได้ ในขณะที่ยังคงประคองความสุขได้อยู่ จะลาออกจากงานดีหรือไม่ คงมีแต่ผู้ถามเท่านั้นที่รู้คำตอบ หากสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นมีความหมายต่อชีวิต ไม่ทำให้เราต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทั้งชีวิตของเรา

ติดตามเนื้อหาดีๆ ข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ

1 ความคิดเห็น

  1. […] อะไรที่ไม่ใช่จะฝืนทำต่อไปก็ไม่มีความสุข คนที่เปลี่ยนงานใหม่เกือบทุกคนมักจะมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในใจและมันก็กลายเป็นเหตุผลสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสายงานใหม่ครับ […]

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here