ชีวิตที่ออกแบบได้ อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความปรารถนาสูงสุดของชีวิตคนๆ หนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนสามารถออกแบบชีวิตได้ตามที่ต้องการ ได้หรือไม่นั้น? แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ รู้แต่เพียงว่าในฐานะคนๆ หนึ่ง สิ่งใดที่สามารถทำได้ เพื่อให้การดำรงอยู่ของเราไม่เป็นภาระคนอื่นและสังคม ก็ยินดีที่จะทำ แน่นอนว่าบางเรื่องนั้นอยู่เหนือการควบคุม แต่การที่ไม่เตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ดูท่าจะประมาทจนเกินไป หากเราสามารถออกแบบชีวิตให้มีความสุขในช่วงวัยสูงอายุตามแบบฉบับของตนเองได้ นี่คือ 4 เรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม
4 เรื่องสำคัญกับการออกแบบชีวิตให้มีสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต
1. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
การดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นการสะสมต้นทุนด้านสุขภาพ เพื่อรับมือกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำให้ร่างกายของเราในวัยเกษียณแข็งแรงเทียบเท่ากับวัยหนุ่มสาว สังเกตว่าคนที่ใส่ใจดูแลสุขภาพกายเป็นประจำ ย่อมดูดีและแข็งแรงกว่าเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันที่ละเลยการดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องอาหารการกินที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยหรือพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จากสถิติพบว่ามีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่วนมากเป็นกลุ่มประชากรวัยทำงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคสูง การดูแลสุขภาพกายเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบังคับ อยากเป็นคนแก่ที่สุขภาพดี ควรเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีกับตัวเอง ใครที่ยังไม่เริ่ม ก็ขอให้ลงมือทำทันที แม้จะเริ่มช้าก็ยังดีกว่าไม่เริ่มเลย
2. มีสุขภาพใจที่เป็นสุข
สุขภาพจิตที่ดีช่วยให้เราสามารถรับมือและจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่เราได้ยินกันค่อนข้างบ่อยในสังคมปัจจุบัน แม้เราจะพยายามทำใจให้เบิกบาน แต่บางครั้งกลับพบว่า บางปัญหาหรือบางสถานการณ์นั้น ค่อนข้างยากที่จะรับมือได้ โดยที่เราไม่รู้สึกเครียด เศร้า เสียใจ ภาวะทางอารมณ์ในด้านลบ ช่วงแรกอาจจะควบคุมได้ แต่หากเกิดขึ้นเป็นเวลานาน และมีความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับภาวะทางจิตได้ ยิ่งเข้าใกล้วัยสูงอายุ ยิ่งต้องมีความมั่นคงในจิตใจ เพราะเป็นวัยที่เราจะเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางกายและใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่ากำลังมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะการดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง ก็เพื่อชีวิตที่มีความสุข
3. มีเงินใช้
เมื่อพูดถึงแผนเกษียณหลายคนอาจรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย อย่าว่าแต่เงินเก็บออมยามเกษียณเลย แค่มีเงินใช้ให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับบางคน นี่ยังไม่นับรวมปัญหาหนี้สินและอื่นๆ วัยทำงานบางคนประสบกับปัญหาชีวิตจนหมุนเงินไม่ทัน เช่น ตกงานกระทันหัน บุพการีล้มป่วย เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุจนต้องรักษาตัวเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น การวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่ใจ ก่อนที่จะเตรียมความพร้อมสู่ความมั่นคงทางการเงินนั้น ต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้เรากำลังประสบปัญหาทางการเงินเรื่องอะไร จะหาทางแก้ไขได้อย่างไร จะให้ประหยัดกว่านี้ก็คงไม่ไหว ตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกก็อาจไม่พอ ควรมองหาอาชีพเสริมทำควบคู่กับงานประจำไปด้วย อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายของการใช้ชีวิตไม่เหมือนเมื่อก่อน ไหนจะค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าครองชีพ ถ้าไม่เตรียมความพร้อมทางการเงินตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิตได้อย่างไร
4. มีคนที่รัก
“ความเหงา” หนึ่งในต้นเหตุของปัญหาสุขภาพจิต ชีวิตคนเมืองทุกวันนี้เผชิญกับความเหงาอยู่ไม่น้อย ต่างคนต่างอยู่ ต่างต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น บางคนก้มหน้าก้มตาทำงาน จนแทบไม่มีเวลาใส่ใจคนที่เรารักเป็นเรื่องธรรมดาเมื่ออายุมากขึ้น จำนวนเพื่อนฝูงเริ่มน้อยลง บวกกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้มีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเหงาอ้างว้าง หลายคนมีชีวิตที่หดหู่สิ้นหวัง ความโดดเดี่ยว และความเหงากำลังแผ่ขยายในกลุ่มผู้สูงวัย นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนเราต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัวบ้าง การมีคนที่รัก ไม่ได้หมายถึงคู่สามีภรรยาเสมอไป บางคนโสดมีความต้องการที่จะอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็รายล้อมไปด้วยเพื่อนแท้ข้างกาย ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในวันที่เราต้องเผชิญกับปัญหาชีวิต การมีคนที่ไว้ใจ คนที่เรารัก และรักเราอยู่เคียงข้าง คอยให้กำลังใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้
ออกแบบชีวิตให้มีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ฟังดูอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางทำได้ ถ้าเตรียมตัวมาดี ต่อให้อายุมากขึ้นก็ไม่กลัว หลายต่อหลายคนรู้ทฤษฎีกันอยู่แล้ว เหลือแค่ลงมือทำเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตตามใคร เพียงแค่รู้ว่าความสุขของเราคืออะไร อยากมีชีวิตแบบไหน ทำอย่างไรให้ไปถึงจุดนั้น ระหว่างทางอาจจะเจอกับเรื่องไม่คาดคิด มีทุกข์บ้างสุขบ้างปะปนกันไป เพราะชีวิตมีเรื่องให้เรียนรู้อยู่เสมอ…
ติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่นี่ค่ะ

[…] แม้โลกจะพังทลายต่อหน้า หากเรายังไม่หมดลมหายใจชีวิตก็จำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไป สิ่งนี้คือความเป็นจริงที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าตนเองต้องการที่จะพักจากเรื่องราวต่าง ๆก็ตามครับ สำหรับผู้ที่จิตใจมั่นคงหนักแน่น ความผิดหวังที่เกิดขึ้นนี้ย่อมไม่ใช่จุดจบหรือจุดสิ้นสุดของชีวิต แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่ายากที่จะทำใจยอมรับ พวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับจูนความคิดของตนเองสักหน่อย แต่เชื่อเถิดว่าเมื่อคุณสามารถยอมรับความผิดหวังนั้นได้และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปคุณก็จะรู้ได้ด้วยตนเองครับว่า ความผิดหวังที่เกิดขึ้นนี้ย่อมไม่มีทางเป็นจุดจบของชีวิตของคุณอย่างแน่นอน เพราะชีวิตนี้ยังคงมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้คุณได้ค้นหา อย่าได้ปล่อยให้ความผิดหวังเพียงครั้งเดียวมาเป็นตัวถ่วงในชีวิตของคุณเด็ดขาด เพรานั่นคือข้ออ้างของคนที่จะไม่รู้จักกับคำว่า “ความสำเร็จ”ในอนาคตอีกต่อไป […]
[…] แม้โลกจะพังทลายต่อหน้า หากเรายังไม่หมดลมหายใจชีวิตก็จำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไป สิ่งนี้คือความเป็นจริงที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าตนเองต้องการที่จะพักจากเรื่องราวต่าง ๆก็ตามครับ สำหรับผู้ที่จิตใจมั่นคงหนักแน่น ความผิดหวังที่เกิดขึ้นนี้ย่อมไม่ใช่จุดจบหรือจุดสิ้นสุดของชีวิต แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่ายากที่จะทำใจยอมรับ พวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับจูนความคิดของตนเองสักหน่อย แต่เชื่อเถิดว่าเมื่อคุณสามารถยอมรับความผิดหวังนั้นได้และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปคุณก็จะรู้ได้ด้วยตนเองครับว่า ความผิดหวังที่เกิดขึ้นนี้ย่อมไม่มีทางเป็นจุดจบของชีวิตของคุณอย่างแน่นอน เพราะชีวิตนี้ยังคงมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้คุณได้ค้นหา อย่าได้ปล่อยให้ความผิดหวังเพียงครั้งเดียวมาเป็นตัวถ่วงในชีวิตของคุณเด็ดขาด เพรานั่นคือข้ออ้างของคนที่จะไม่รู้จักกับคำว่า “ความสำเร็จ”ในอนาคตอีกต่อไป […]