สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้อาจเรียกได้ว่ายังอยู่ในห้วงเวลาที่วิกฤติครับ เพราะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆขึ้นหลายแห่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในหลักพันมาต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังพอจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างนั่นก็คือจำนวนของผู้ป่วยที่หายจากโรคและกลับบ้านได้ก็มีจำนวนที่มากขึ้นเช่นกัน แต่กระนั้นด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้นอกจากจะกระทบกับปัญหาสุขภาพก็ยังกระทบกับรายได้ของประชาชนอย่างหนักหน่วง มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องถูกเลิกจ้าง ถูกตัดรายได้ ร้านค้าต่าง ๆต้องปิดตัวลง ธุรกิจรายย่อยหลายรายต้องพยายามแบกรับสถานการณ์และคาดหวังว่าอะไร ๆจะดีขึ้นในเร็ววัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่แต่สิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญอยู่แน่ ๆตอนนี้ก็คือภาวะชักหน้าไม่ถึงหลังหรือเมื่อเงินเริ่มไม่พอใช้ครับ สำหรับบทความนี้เราได้ทำการรวบรวมวิธีการต่าง ๆในการแก้ไขสถานการณ์เงินไม่พอใช้ในช่วงวิกฤติโควิด -19 รอบนี้มาแบ่งปันกัน เพื่อให้คุณสามารถประคับประคองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ครับ
6 วิธีแก้เงินไม่พอใช้ในช่วงโควิดที่เรารวบรวมมาเป็นแนวทางเบื้องต้นที่จะฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
1. เรียนรู้ ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินจากภาครัฐ
ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลในช่วงเวลานี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดครับ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาระหนี้สินที่ต้องจัดการอยู่ ซึ่งคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการช่วยเหลือในเรื่องของการผ่อนปรนภาระหนี้สิน รวมไปถึงมาตรการเยียวยาที่ภาครัฐออกมาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวคุณสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ www.bot.or.th หรือหากคุณเป็นลูกจ้างหรือผู้ประกันตนมาตราต่าง ๆก็สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประกันสังคมที่ https://www.sso.go.th/ ครับ
2. จงเขียนรายละเอียดต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับรายรับและรายจ่ายของคุณออกมาให้ชัดเจน
จุดเริ่มต้นที่จะทำให้คุณวางแผนการเงินได้ดีที่สุดก็คือคุณต้องรู้ว่าคุณมีรายรับและรายจ่ายเท่าไหร่และมีหนี้สินประจำที่ต้องชำระหรือไม่ การที่คุณจะทราบทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ได้นั้นคุณจำเป็นต้องเขียนรายละเอียดของทุกอย่างออกมาให้หมดครับ รายละเอียดที่ปรากฏออกมาที่หน้ากระดาษจะทำให้คุณสามารถจัดการกับรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรือคิดวางแผนหาช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้ ซึ่งจะง่ายต่อการวางแผนไม่ให้การเงินของคุณต้องชักหน้าไม่ถึงหลังในวิกฤตินี้นั่นเอง
3. การจัดการหนี้ให้สมดุลกับรายได้
ภาระหนี้สินเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ๆที่คุณจำเป็นต้องจัดการครับ หากคุณมีหนี้สินตายตัวที่ต้องชำระในทุกเดือน คุณจำเป็นต้องกันรายได้ที่ได้รับมาเพื่อนำมาจัดการกับกองหนี้ก้อนนี้เสียก่อน แต่หากคุณรู้สึกว่าในช่วงเวลาวิกฤติโควิด-19เช่นนี้ คุณเริ่มจะมีปัญหาในการผ่อนชำระ ทางที่ดีนอกจากการตรวจสอบมาตรการของทางภาครัฐที่จะช่วยเยียวยาภาระหนี้สินของคุณ คุณก็อาจจะติดต่อพูดคุยกับทางเจ้าหนี้โดยตรงครับ เพื่อหาหนทางเจรจาตกลงร่วมกันโดยอาจเป็นการขอพักชำระเงินต้น การขอพักชำระดอกเบี้ยหรือการเจรจาประนอมหนี้ในลักษณะอื่น ๆได้อีกด้วย นอกเหนือจากการประนอมหนี้ คุณจำเป็นที่จะต้องสร้างวินัยทางการเงินที่จะไม่ไปก่อหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็นจนทำให้ภาระหนี้สินของคุณเพิ่มสูงขึ้นครับ
4. ลดค่าใช้จ่าย ลำดับความสำคัญของรายจ่ายและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกให้หมด
เมื่อคุณสามารถจัดการภาระหนี้สินของคุณได้แล้ว หลังจากขั้นตอนการรวบรวมรายรับและรายจ่ายที่คุณลิสต์เอาไว้ คุณต้องนำรายจ่ายทั้งหมดมาพิจารณาจัดลำดับความสำคัญใหม่ทั้งหมด โดยแยกออกเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายประจำวันต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หากคุณลิสต์รายการรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพคุณจะสามารถจำแนกรายจ่ายทั้งหมดเป็นประเภทต่าง ๆดังกล่าวข้างต้นครับ การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเห็นภาพและเริ่มต้นพิจารณาลดรายจ่ายบางอย่างลงได้รวมถึงสามารถตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้ออกไปได้ครับ การทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้คุณอยู่รอดในแต่ละเดือนในช่วงวิกฤตินี้ก็ยังช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บเผื่อฉุกเฉินอีกเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถจัดการรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือ “พยายามคิดให้ดีก่อนที่จะใช้จ่ายทุกครั้ง”ครับ
5. พิจารณาหารายได้เสริมจากทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือออฟไลน์
ในยุคที่เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและข่าวสารได้ง่ายขึ้น อย่าใช้เทคโนโลยีต่าง ๆเพียงเพื่อความบันเทิงหรือเสพข้อมูลต่าง ๆเพียงอย่างเดียว แต่จงใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้นในการหาช่องทางที่จะสร้างรายได้เพิ่มเติมครับ หากคุณคิดไม่ตกว่าจะสร้างรายได้จากช่องทางใด ปัจจุบันมีแหล่งความรู้มากมายในโลกออนไลน์ที่จะช่วยแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับช่องทางในการสร้างรายได้ให้แก่คุณ ที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าคุณจะสามารถทำอะไรได้บ้าง รายได้เสริมมีอยู่ทุกที่และทุกช่องทางครับไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์หรือช่องทางออฟไลน์ หาช่องทางที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดแล้วลงมือสร้างรายได้เสริมครับ เพียงเท่านี้คุณจะสามารถแบ่งเบาภาระต่าง ๆลงไปได้มากทีเดียว อนึ่งคุณอย่าเพิ่งเป็นกังวลว่าในวิกฤติเช่นนี้การสร้างรายได้เสริมจะยากไหมเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยหรือเปล่า อาชีพเสริมนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการขายสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีงานหรือธุรกิจบางประเภทที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ครับ หาให้เจอว่าสิ่งนั้นคืออะไรแล้วลงมือทำมันทันทีครับ
6. ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี
เราเข้าใจครับว่าในวิกฤติเช่นนี้ความเครียดและความวิตกกังวลเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคนอย่างแน่นอน ไหนจะความกังวลต่อตัวของโรคหรือความกังวลต่อเรื่องของปากท้องของเรา แต่กระนั้นหากคุณปล่อยให้ความกังวลมาคอยเกาะกินจิตใจของคุณอยู่เรื่อย ๆในท้ายที่สุดสุขภาพร่างกายของคุณจะมีปัญหาอย่างแน่นอน ในภาวะวิกฤติที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดเช่นนี้ คุณต้องพยายามป้องกันตนเองเสียก่อนด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำ คู่มือการดูแลตนเองเกี่ยวกับการป้องกันโรคเพื่อลดความเสี่ยงของโรคครับ แม้โรคโควิด-19จะเป็นโรคระบาดร้ายแรงแต่หากคุณไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่าง ๆคุณก็มั่นใจในระดับหนึ่งครับว่าคุณจะไม่ติดโรคร้ายแรงนี้แน่นอน ส่วนในเรื่องของความกังวลในเรื่องของรายได้ หากคุณเริ่มต้นบริหารจัดการรายได้ดังคำแนะนำข้างต้น คุณก็น่าจะพอที่จะหายใจโล่งอยู่บ้างครับ เพราะเอาเข้าจริง ๆแล้วหากคุณยังคงปล่อยให้ความกังวล ความเครียดมารุมเร้าอยู่เนือง ๆ คุณก็มีโอกาสล้มป่วยจากโรคอื่นที่ไม่ใช่โควิด-19 และถึงตอนนั้นคุณจะยิ่งได้รับผลกระทบจากรายจ่ายด้านสุขภาพที่จะตามมารวมถึงค่าเสียโอกาสที่เกิดจากการทำงานไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจงพยายามทำจิตใจให้ปลอดโปร่งควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพของตนครับ นี่คือวิธีการที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้ภายใต้วิกฤติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
เราเข้าใจคุณครับว่าผลกระทบจากวิกฤตินี้มันหนักหนามากสำหรับใครหลาย ๆคน ซึ่งก็ต้องยอมรับกันว่าสำหรับบางคนก็ยังมองไม่เห็นแสงสว่างปลายทางเลยว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะรอดจากวิกฤตินี้ แต่พวกเราเชื่อเหลือเกินครับว่าคุณทุกคนมีศักยภาพในตัวเองที่มากพอที่จะฝ่าฟันวิกฤติใหญ่ในครั้งนี้ไปด้วยกัน แม้ในกลางทางคุณอาจจะต้องเสียน้ำตาไปกับมันบ้าง แต่ท้ายที่สุดเราจะฝ่าฟันมันไปพร้อมกันรอยยิ้มด้วยกันครับ ทาง whenioldup.com ขอเป็นกำลังใจและร่วมยืนเคียงข้างทุก ๆคนครับ
ติดตามข้อมูลดี ๆทางช่องทางโซเชี่ยลได้ที่นี่ครับ
